,

( อีก 5 ) Trend การดื่มกาแฟของปี 2017

feature2

หลังจากที่ CoffeeEd นำเสนอ เทรนด์การดื่มกาแฟของปี 2017 จากฝั่งยุโรป ไปแล้ว วันนี้เรามาดูอีก 5 เทรนด์กาแฟกันค่ะ จะมีอะไรเหมือนหรือต่างกันบ้างนะ ? : ) 


1-coffee-trend2
1. Like & Share : กาแฟ & โซเชียลมีเดีย 

ชัดเจนว่าผู้ดื่มกาแฟในตอนนี้เป็นกลุ่มผู้ที่มีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในมือ มีสังคมอยู่ในโลกโซเชียล มีการแชร์แบ่งปันเรื่องราว รสนิยมและไลฟ์สไตล์สม่ำเสมอ ฉะนั้นเรื่องการดื่มกาแฟที่เคยเป็นเรื่องกิจวัตรในบ้าน ก็กลายเป็นเรื่องสาธารณะมากขึ้น และเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ดื่ม ‘ตัดสินใจ’ จ่ายเงินเพื่อดื่มกาแฟก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคา (เหมือนเวลาเเม่บ้านเปรียบเทียบราคาของใช้ประจำวัน) แต่เน้นไปที่ประสบการณ์ที่เขาจะได้รับจากกาแฟแก้วนั้นมากกว่า ทำให้ช่วงหลังมานี้ เราจะเห็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นร้านคาเฟ่ แก้วกาแฟ แพ็กเกจ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เน้นเรื่องดีไซน์และความสวยงามมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้ดื่มที่ชอบแบ่งปันไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ของตัวเอง


2-coffee-trend2

Sudden Coffee

2. Rush Hour

แน่นอนว่าเราชอบการนั่งชิลเสพบรรยากาศดีๆ ในร้านกาแฟ แต่ความชิลนั้นมักเกิดขึ้นได้เฉพาะในวันพักผ่อนที่มีเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนอีก 5 วันทำงานที่เหลือเป็นเวลาของความเร่งรีบ หลายคนต้องการเพียงกาแฟที่ดีในเวลาที่รวดเร็วก็เพียงพอ อาจเป็นช่วงเช้าก่อนเข้าออฟฟิศ หรือกาแฟยามบ่ายบนโต๊ะทำงาน… และเมื่อผู้ดื่มต้องการทั้งคุณภาพและความรวดเร็ว ผู้ผลิตกาแฟหลายแบรนด์จึงเริ่มเปิดตลาดกาแฟสำเร็จรูปสูตรใหม่ จากเมล็ดกาแฟสายพันธ์อราบิก้าที่ให้รสชาติดีกว่ากาแฟสูตรเก่า บรรจุในรูปซอง หรือเป็นแก้วสำเร็จรูปพร้อมดื่มก็มี… นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์กาแฟโดยบาริสต้าที่มีชื่อเสียง เป็นกาแฟผงบรรจุมาในหลอดพร้อมชงกับนมหรือน้ำร้อน  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์กาแฟที่ ให้ความรู้สึก’ อยู่กึ่งกลางระหว่างกาแฟสดและกาแฟสำเร็จรูป



3. Nitro Coffee  

เมื่อมีทางเลือกดื่มกาแฟหลากหลายมากขึ้น ชงดื่มเองจากซองสำเร็จรูปที่บ้านก็ได้ ชงจากเครื่องชง Espresso แบบ Home use ก็ได้ ผู้ผลิตกาแฟก็คิดวิธีที่จะให้คนดื่มแวะเวียนเข้ามาที่ร้านของเขาด้วยเมนูที่พิเศษ รสชาติที่พิเศษดึงดูดความสนใจ อย่าง Nitro Coffee กาแฟอัดแก๊สไนโตรเจนผ่านหัวจ่ายเหมือนเบียร์สด ซึ่งผสมผสานรสชาติของกาแฟเข้ากับรสสัมผัสของเบียร์คือมีฟองครีมนุ่มนวลเสริมรสชาติกาแฟให้ละมุนละไมมากขึ้น และให้ความสดชื่นในวันอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี


3-coffee-trend2
4. Cold Brew

ยังได้รับความนิยม และดูจะเป็นแนวโน้มที่ตรงกันกับฝั่งยุโรปว่า Cold Brew ยังอยู่ในความสนใจของผู้ดื่มในวงกว้าง แต่ทำไมถึงต้องเป็น Cold Brew ? อาจเป็นเพราะวิธีการสกัดกาแฟ Cold Brew ใช้เวลานาน มี Story ที่พิเศษเพราะต้องหมักแช่กาแฟเอาไว้ถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งทำให้รสชาติต่างไปจากกาแฟดำที่ชงด้วยเครื่อง Espresso Machine อีกทั้งการดื่มก็นิยมดื่มแบบเย็นพร้อมน้ำเเข็ง ให้ความสดชื่นที่สุขุมลุ่มลึก


5-coffee-trend2


5.  Something Special

สำหรับข้อสุดท้ายจะเป็นการตอกย้ำถึงเทรนด์ในข้อแรก คือเมื่อผู้ดื่มรุ่นใหม่มีแนวโน้มสนใจประสบการณ์ที่ได้รับจากการดื่มกาแฟมากกว่าราคา ฉะนั้นกาแฟคุณภาพพิเศษ (Specialty Coffee) กาแฟล็อตพิเศษ เมนูพิเศษ สถานที่พิเศษ วิธีการชงแบบต่างๆ ที่พิเศษ ก็เป็น keyword ดึงดูดให้ผู้ดื่มลองกาแฟเหล่านั้นได้ไม่ยาก แต่ความสนใจนี้จะอยู่เพียงชั่วคราว หรือกลายเป็นความนิยมหลัก ก็ต้องใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ว่าราคาหรือประสบการณ์จะอยู่ในตลาดกาแฟได้นานกว่ากันนะคะ



• Related Post : TREND การดื่มกาแฟของปี 2017 (ฝั่งยุโรป)


อ้างอิงข้อมูลจาก : nationalcoffeeblog



ติดตามเรื่องราวของกาแฟได้ที่

Coffee Education Fanpage

web1